NVIDIA ได้ประกาศการขยายแพลตฟอร์ม Omniverse อย่างมีนัยสำคัญ โดยวางตำแหน่งให้เป็นระบบปฏิบัติการ AI กายภาพเพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรม แพลตฟอร์มนี้สร้างขึ้นบนกรอบการทำงาน OpenUSD ช่วยให้นักพัฒนาสามารถรวมข้อมูลและแอปพลิเคชันจากโลกกายภาพเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ไขความท้าทายในการผสานข้อมูลดิจิทัลและข้อมูลทางกายภาพจำนวนมหาศาลจากระบบเก่า ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และบริการชั้นนำในภาคอุตสาหกรรม เช่น Ansys, Databricks, Dematic, Omron, SAP, Schneider Electric ร่วมกับ ETAP และ Siemens กำลังผสาน Omniverse เข้ากับโซลูชันของพวกเขา เพื่อยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต
NVIDIA ได้แนะนำ Omniverse Blueprints ใหม่ที่เชื่อมต่อกับโมเดลพื้นฐานโลก Nvidia Cosmos เพื่อช่วยให้สถานที่พร้อมรองรับหุ่นยนต์ และสร้างข้อมูลสังเคราะห์ขนาดใหญ่สำหรับการพัฒนา AI กายภาพ การนำไปใช้ที่โดดเด่นได้แก่ Mega Blueprint ซึ่งบริษัทต่างๆ เช่น Schaeffler, Accenture, Hyundai Motor Group และ Mercedes-Benz กำลังใช้เพื่อจำลองและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหุ่นยนต์ในสภาพแวดล้อมการผลิต นอกจากนี้ Foxconn และ Pegatron กำลังใช้ Omniverse เพื่อยกระดับการดำเนินงานในโรงงานและความปลอดภัยของคนงานผ่านหุ่นยนต์ขั้นสูงและการวิเคราะห์วิดีโอ แพลตฟอร์มนี้ยังถูกนำไปใช้โดยผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น General Motors และ Unilever สำหรับการเปลี่ยนแปลงด้าน AI อุตสาหกรรมต่างๆ
การผสาน Omniverse ในหลากหลายอุตสาหกรรมคาดว่าจะเร่งการนำหุ่นยนต์ขั้นสูงและ AI มาใช้ในสภาพแวดล้อมการผลิต โดยลดความเสี่ยงและเวลาในการนำไปใช้ การผลักดันของ NVIDIA ไปสู่ AI กายภาพขยายแพลตฟอร์มการประมวลผลของบริษัทนอกเหนือจากศูนย์ข้อมูลไปสู่โรงงาน คลังสินค้า และสภาพแวดล้อมทางกายภาพอื่นๆ สร้างความต้องการใหม่สำหรับเทคโนโลยีของบริษัทตลอดทั้งวงจรการพัฒนา AI แพลตฟอร์มนี้มีให้บริการบนบริการคลาวด์หลัก เช่น AWS Marketplace และ Microsoft Azure โดยมีแผนที่จะให้บริการบน Oracle Cloud Infrastructure และ Google Cloud ในอนาคต ซึ่งจะช่วยขยายการเข้าถึงมากขึ้น
ที่มา: NVIDIA