Nintendo Switch 2 ที่มีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 5 มิถุนายน 2025 จะมาพร้อมการอัปเกรดที่สำคัญจากรุ่นก่อนหน้า โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล คุณสมบัติที่โดดเด่นของเครื่องคอนโซลรุ่นนี้คือการรองรับเฉพาะการ์ด microSD Express ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าการ์ด microSD แบบดั้งเดิมที่ใช้ใน Switch รุ่นแรกอย่างมาก
การ์ด microSD Express ใช้เทคโนโลยี PCIe และ NVMe ทำให้สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 985 MB/s ซึ่งเร็วกว่าการ์ด microSD แบบ UHS-I ที่มีความเร็วสูงสุดที่ 104 MB/s เกือบ 10 เท่า คุณสมบัตินี้ช่วยให้เกมโหลดได้เร็วขึ้นและประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลโดยรวมดีขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรองรับเกมขนาดใหญ่และต้องการทรัพยากรสูงบน Switch 2 แบรนด์ต่างๆ เช่น SanDisk และ Samsung ได้เริ่มวางจำหน่ายการ์ดเหล่านี้แล้ว โดยรุ่น 128GB มีราคาประมาณ 45 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,575 บาท) และรุ่น 256GB ราคาประมาณ 60 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,100 บาท)
การที่ Switch 2 รองรับเฉพาะการ์ด microSD Express หมายความว่าผู้ใช้ไม่สามารถนำการ์ด microSD ที่มีอยู่แล้วจาก Switch รุ่นแรกมาใช้ได้ เว้นแต่จะเป็นรุ่น Express ข้อกำหนดนี้มีไว้เพื่อรักษาประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของเครื่อง แต่อาจทำให้ผู้ใช้มีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้อมูลสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม Switch 2 มีพื้นที่จัดเก็บภายในเพิ่มขึ้นเป็น 256GB ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการขยายพื้นที่จัดเก็บภายนอกในทันที
การนำการ์ด microSD Express มาใช้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Nintendo ที่จะทำให้ Switch 2 รองรับเทคโนโลยีในอนาคตและสามารถรองรับเกมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ แม้ว่าราคาอาจเป็นข้อเสียเปรียบ แต่ความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลที่ดีขึ้นทำให้ Switch 2 เป็นผู้สืบทอดทางเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่า Switch รุ่นแรกอย่างเห็นได้ชัด
ที่มา: Engadget