Hyperlume สตาร์ทอัพจากเมืองออตตาวา ประเทศแคนาดา กำลังพัฒนาเทคโนโลยีปฏิวัติวงการการสื่อสารระหว่างชิปในดาต้าเซ็นเตอร์ บริษัทก่อตั้งในปี 2022 โดย Mohsen Asad และ Hossein Fariborzi มีเป้าหมายแก้ปัญหาการใช้พลังงานและความล่าช้าในการส่งข้อมูลของดาต้าเซ็นเตอร์ ในปี 2023 ดาต้าเซ็นเตอร์ในสหรัฐฯ ใช้ไฟฟ้าถึง 4.4% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 12% ภายในปี 2028 โดยส่วนใหญ่ใช้ไปกับการส่งข้อมูลระหว่างชิป
เทคโนโลยีของ Hyperlume ใช้ microLED ที่ถูกดัดแปลงพิเศษในการส่งข้อมูลระหว่างชิป ซึ่งให้ความเร็วในการส่งข้อมูลที่สูงกว่าและใช้พลังงานน้อยกว่าการเชื่อมต่อแบบทองแดงแบบเดิม เทคโนโลยีนี้ทำงานร่วมกับวงจรรวมเฉพาะทาง (ASICs) แบบประหยัดพลังงาน ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการเชื่อมต่อไฟเบอร์ออปติก แต่มีต้นทุนต่ำกว่ามาก
บริษัทเพิ่งได้รับเงินทุน 12.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 440 ล้านบาท) ในรอบ Seed จาก BDC Capital’s Deep Tech Venture Fund และ ArcTern Ventures โดยมี Intel Capital และนักลงทุนอื่นๆ ร่วมลงทุนด้วย เงินทุนนี้จะนำไปใช้ขยายทีมวิศวกรและพัฒนาเทคโนโลยีต่อไป
ปัจจุบัน Hyperlume กำลังทำงานร่วมกับผู้ใช้งานกลุ่มแรกเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยี บริษัทวางแผนที่จะขยายโซลูชันของตนเพื่อเป็นผู้นำด้านการเชื่อมต่อ AI สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นต่อไป เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดการใช้พลังงาน แต่ยังช่วยปลดล็อกขีดความสามารถของชิปที่เคยถูกจำกัดด้วยความล่าช้าในการสื่อสาร ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของโมเดลภาษาขนาดใหญ่และแอปพลิเคชัน AI อื่นๆ ที่ต้องการการสื่อสารระหว่างชิปที่รวดเร็ว
ที่มา: TechCrunch