Epic Games ผู้พัฒนาเกมดัง Fortnite กำลังเผชิญกับการถูกฟ้องร้องแบบกลุ่ม (class action lawsuit) จากข้อกล่าวหาว่าใช้วิธีการหลอกลวงในร้านค้าไอเทมภายในเกม การฟ้องร้องนี้ดำเนินการโดยพ่อแม่สองคนในนามของลูก ๆ ที่ศาลในซานฟรานซิสโก โดยกล่าวหาว่า Epic Games ใช้ระบบนับเวลาถอยหลังที่ทำให้เข้าใจผิดเพื่อสร้างภาพลวงตาว่าสินค้ามีจำนวนจำกัด กลยุทธ์นี้กดดันให้ผู้เล่น โดยเฉพาะเยาวชน ตัดสินใจซื้อแบบหุนหันพลันแล่น เพราะเข้าใจว่าไอเทมบางอย่างจะหายไปเมื่อเวลาหมดลง
อย่างไรก็ตาม การฟ้องร้องระบุว่าไอเทมเหล่านี้มักยังคงวางจำหน่ายในราคาเดิมเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์หลังจากเวลานับถอยหลังหมดลง วิธีการนี้ถูกกล่าวหาว่าทำให้เกิดความกลัวว่าจะพลาดโอกาส (FOMO) ในหมู่ผู้เล่น ส่งผลให้พวกเขาซื้อไอเทมที่อาจไม่ได้ตั้งใจจะซื้อหากไม่มีการกดดันดังกล่าว ทางด้าน Epic Games ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ โดยระบุว่าการฟ้องร้องมีข้อผิดพลาดทางข้อเท็จจริงและไม่ได้แสดงถึงการทำงานที่แท้จริงของ Fortnite บริษัทชี้แจงถึงการเปลี่ยนแปลงล่าสุด รวมถึงการลบตัวนับเวลาถอยหลังและการเพิ่มการควบคุมโดยผู้ปกครอง เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องผู้เล่นที่เป็นเยาวชน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Epic Games ถูกตรวจสอบเกี่ยวกับวิธีการหารายได้ของบริษัท ในปี 2022 บริษัทถูกปรับโดยคณะกรรมการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal Trade Commission) และในปี 2024 บริษัทได้รับค่าปรับ 1.1 ล้านยูโร (ประมาณ 43 ล้านบาท) จากเนเธอร์แลนด์สำหรับปัญหาที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับการใช้ตัวนับเวลาที่ทำให้เข้าใจผิด ขณะนี้คดีกำลังรอการตัดสินจากศาลว่าจะสามารถดำเนินการเป็นการฟ้องร้องแบบกลุ่มได้หรือไม่ ซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแนวทางการจัดการเกี่ยวกับการซื้อสินค้าในเกมของอุตสาหกรรมเกม
ที่มา: Checkpoint Gaming, Times of India