แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี Bybit ตกเป็นเหยื่อการแฮกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยประเมินว่ามีเหรียญคริปโตถูกขโมยไปมูลค่าเกือบ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 52,500 ล้านบาท) การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นกับกระเป๋าเย็น (cold wallet) ของ Ethereum โดยแฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมและโอนเงินไปยังที่อยู่ที่ไม่ระบุตัวตนในระหว่างการโอนเงินตามปกติจากกระเป๋าเย็นไปยังกระเป๋าอุ่น (warm wallet)
เงินที่ถูกขโมยถูกโอนไปยังกระเป๋าเดียวก่อน แล้วจึงกระจายไปยังกว่า 40 กระเป๋าอื่นๆ โดยส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในรูปแบบของ ETH จำนวน 10,000 หน่วย มูลค่าประมาณ 27 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 945 ล้านบาท) ต่อกระเป๋า แม้จะมีความเสียหายมหาศาล Ben Zhou ซีอีโอของ Bybit ยืนยันว่าสินทรัพย์ของลูกค้าทั้งหมดยังปลอดภัยและมีการสำรองครบถ้วน แพลตฟอร์มยังคงมีสภาพคล่องแม้ว่าจะไม่สามารถกู้คืนเงินที่ถูกขโมยได้ก็ตาม
ก่อนเกิดเหตุ Bybit มีสินทรัพย์รวมประมาณ 16.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 567,000 ล้านบาท) นั่นหมายความว่าเงินที่ถูกขโมยคิดเป็นประมาณ 9% ของสินทรัพย์ทั้งหมด เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ราคาของเหรียญคริปโตหลักๆ อย่าง Bitcoin และ Ether ปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ไม่ได้กระทบต่อช่วงการซื้อขายโดยรวมของเดือนนี้
ขณะนี้ Bybit กำลังร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์บล็อกเชนเพื่อสืบสวนและติดตามสินทรัพย์ที่ถูกขโมย ความสามารถในการรักษาการดำเนินงานและความปลอดภัยของเงินลูกค้าแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินและมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำถึงความท้าทายที่แพลตฟอร์มคริปโตต้องเผชิญในการรักษาความปลอดภัยระบบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อน
ที่มา: Engadget