Apple ได้เปิดตัวโมเด็มมือถือรุ่นแรกที่พัฒนาเองอย่างเป็นทางการ โดยใช้ชื่อว่า C1 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในความพยายามลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์ภายนอกอย่าง Qualcomm โดยโมเด็ม C1 นี้จะถูกใช้ในไอโฟน 16e รุ่นใหม่ ที่ออกแบบมาให้มีแบตเตอรี่อึดที่สุดในบรรดาไอโฟนจอ 6.1 นิ้ว เมื่อเทียบกับไอโฟน 15 และไอโฟน 16
C1 เป็นโมเด็มที่ประหยัดพลังงานที่สุดที่เคยใช้ในไอโฟน พร้อมมอบการเชื่อมต่อ 5G ที่เร็วและเสถียร แต่รองรับเฉพาะเครือข่าย 5G ย่านความถี่ต่ำกว่า 6GHz เท่านั้น ยังไม่รองรับเทคโนโลยี mmWave ที่ให้ความเร็วสูงมากในพื้นที่เฉพาะ เช่น สนามกีฬาและในเมืองที่มีความหนาแน่น ข้อจำกัดนี้ทำให้ผู้ใช้ไอโฟน 16e และอาจรวมถึงไอโฟน 17 Air ที่กำลังจะมาถึง จะไม่สามารถเข้าถึงความเร็ว 5G สูงสุดที่มีอยู่ได้
การพัฒนาเทคโนโลยีโมเด็มของ Apple เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่จะผลิตชิปเองมากขึ้นในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ช่วยให้บริษัทบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น และอาจใช้เป็นข้อต่อรองในการเจรจากับซัพพลายเออร์ Apple วางแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีโมเด็มต่อไป โดยรุ่นต่อไปจะรองรับ mmWave และอาจมีประสิทธิภาพเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm ทั้งในแง่ประสิทธิภาพและฟีเจอร์ AI
Apple กำลังพัฒนาโมเด็ม 5G รุ่นที่สองที่คาดว่าจะเปิดตัวในไอโฟน 18 ในปี 2026 โดยมีความเร็วดาวน์โหลดทางทฤษฎีสูงถึง 6 Gbps ซึ่งเร็วกว่า C1 มาก นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวโมเด็มรุ่นที่สามในปี 2027 ปัจจุบัน Apple ยังมีข้อตกลงกับ Qualcomm ไปจนถึงปี 2026 ทำให้มีเวลาพัฒนาเทคโนโลยีโมเด็มของตัวเอง ในขณะที่ยังใช้โมเด็มของ Qualcomm ในไอโฟนรุ่นพรีเมียม
ที่มา: MacDailyNews